Home ทริบเทคนิค/บทความ อ่านหนังสือหรือฟังคำบรรยายดี คำตอบของผู้สอบผ่านผู้พิพากษา

อ่านหนังสือหรือฟังคำบรรยายดี คำตอบของผู้สอบผ่านผู้พิพากษา

5753

อ่านหนังสือหรือฟังคำบรรยายดี คำตอบของผู้สอบผ่านผู้พิพากษา

 

ถาม  อยากเรียนถามท่านadminหน่อยค่ะ ดิฉันอายุ27ปีไม่ได้ทำงานอาชีพอ่านหนังสือเตรียมสอบผู้ช่วยอย่างเดียว ดิฉันเคยผ่านการสอบผู้ช่วยและอัยการมาแล้วครั้งหนึ่งในปีที่แล้ว ดิฉันเริ่มอ่านหนังสือเตรียมสอบ เรื่อยมาตั้งแต่ จบเนติโดยดิฉันจะอ่านคำบรรยายเนติ 1 รอบก่อน เสร็จแล้วเลือกอ่านหนังสือนอก เฉพาะรายวิชาที่ไม่ค่อยเข้าใจ เช่น วิอาญา ของอ.ธานิศ อาญา ของ อ.เกรียติขจร พยาน ของ อ.ธานี และอ่าน juris และเข้าฟังคำบรรยายที่เน บางวิชาหรือฟังไฟล์เสียงจากที่บ้านบ้าง ซึ่งพักหลังดิฉันชอบฟังไฟล์เสียงมากเพราะทำให้ดิฉันเข้าใจลึกซึ้งขึ้นมาก จนทำให้ดิฉันแทบไม่ได้อ่านหนังสือเลย มีอาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่าเป็นวิธีการที่ผิดเพราะการฟังคำบรรยายทำให้ช้ากว่าการอ่านหนังสือเอง ดิฉันจึงอยากขอคำแนะนำจากท่านad min ค่ะว่าดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ

……………………………………….

ตอบ  ถ้าตอบง่ายๆสั้นๆ ก็คงต้องบอกว่าวิธีการไหนก็ได้ ขอให้ เขียนตอบข้อสอบให้ได้คะแนนดีๆ ละกัน เหมือนที่เติ้งเสี่ยวผิงบอกว่า แมวสีอะไรก็ได้ขอให้จับหนูได้ก็พอ การอ่านหรือการฟัง ก็เป็นการรับข้อมูลจากภายนอกเข้าไปในสมองของเรา ที่สำคัญไปไม่น้อยกว่าการอ่านหรือการฟัง คือ การพูดและการเขียน ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นเข้าใจ ต่อให้เราอ่านหรือฟังมามากแค่ไหน ถ้าเราไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ที่เรามีให้คนอื่นเข้าใจได้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร สอบตกอยู่ดี คนที่จะมิสิทธิสอบผู้พิพากษาได้ ก็ต้องมีความรู้กฎหมายดีพอสมควร จบปริญญาตรี จบเนติฯแล้วกันทุกคน แต่จำนวนคนสอบได้น้อยลงเรื่อยๆ ไม่รู้ทำไม สิ่งที่เห็นคนส่วนใหญ่ทำเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือให้ได้มากที่สุด โดยแทบจะไม่เคยคิดเลยว่าจะเขียนยังไงให้ได้คะแนนดีๆ ทั้งที่ข้อสอบเป็นข้อเขียน วัดกันด้วยความสามารถในการเขียน ไม่ได้วัดว่าใครอ่านหรือฟังมามากกว่ากัน ที่เรามักจะอ่านหนังสือกันเยอะๆ คงเป็นเพราะเราคิดว่าถ้าเรารู้เยอะๆ เดี๋ยวเราก็เขียนได้เอง (พี่ก็เคยคิดแบบนี้) แต่จริงๆแล้วยิ่งมีความรู้เยอะยิ่งเขียนไม่ทันเวลาไม่พอ ข้อที่ตอบได้ก็เขียนไปหลายหน้า น้ำท่วมทุ่ง จนกรรมการหาที่ให้คะแนนไม่เจอ ส่วนข้อที่เหลือก็ทำไม่ทัน เขียนไปสามบรรทัด แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าที่คนสอบได้กันน้อยเพราะเหตุนี้หรือเปล่า

……………………

  ในความเห็นพี่นะ จะเน้นอ่านหนังสือหรือฟังคำบรรยายก็ได้แล้วแต่เราจะถนัด แต่การอ่านหรือการฟังแต่ละครั้งเราต้องถามตัวเองว่าเรารู้อะไรบ้างประเด็นสำคัญคืออะไร สรุปให้เป็นภาษาของเรา แล้วเขียนลงสมุดที่เรียกกันว่าโน๊ตย่อ นั้นแหละ จากนั้นก็เอาโน๊ตย่อหรือสมุด มาคุยกับตัวเอง หรือคุยให้เพื่อนฟัง จะเป็นคนที่ไม่ได้เรียนกฎหมายก็ได้ ถ้าเค้ายินดีจะฟัง ถ้าเราสามารถถ่ายทอดให้เค้าเข้าใจได้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ในการเตรียมตัวสอบก็ไปเตรียมไว้ล่วงหน้าเลย ว่าจะเขียนตอบข้อสอบยังไง ไปคิดในห้องสอบมันไม่ทันเวลาไม่พอ ส่วนใหญ่ข้อสอบจะกำหนดขอบเขตไว้แล้ว ว่าแต่ละข้อจะออกวิชาอะไรบ้าง เราก็เตรียมโน๊ตย่อ ที่เป็นเฉพาะตัวบท เรียงตามวิชาที่จะออกข้อสอบในแต่ละข้อเลย เอาไว้ท่องช่วงใกล้สอบ ส่วนโน๊ตย่ออีกอัน ก็สรุปหลักฎหมายตามฎีกาไว้ทบทวนก่อนสอบ แล้วก้อฝึกเขียนทำข้อสอบเก่าวันละข้อ อย่าไปคิดว่าอ่านหนังสือมายังไม่พร้อมที่จะเขียน ลงมือเขียนไปเลย ได้แค่ไหนแค่ไหน ช่วงแรกมันจะยาก พอเราฝึกไปสักพัก พอเราเริ่มเขียนได้ เราจะอ่านหนังสือได้เร็วขึ้น เพราะพอเราเคยเขียนเราจะเข้าใจ ว่า คนที่เขียนหนังสือเค้าต้องการสื่ออะไร

…………….

การฟังคำบรรยาย มีข้อดีตรงที่ ง่ายต่อการทำความเข้าใจ แต่บางครั้งอาจารย์ก็บรรยายไม่ได้ทุกเรื่อง ส่วนหนังสือทำความเข้าใจยากหน่อย แต่จะเนื้อหาจะครบถ้วน และเป็นภาษาเขียน คำแนะนำก็คือต้องทั้งอ่าน ฟัง พูด และเขียนด้วย (เยอะไปป่ะ) คือเราต้องบริหารจัดการเวลา แต่ถ้าเราฟังคำบรรยายก่อนจากนั้นก็มาอ่านหนังสือเร่องนั้นก็อ่านได้เร็วนะ แล้วก็ทำโน๊ตย่อไปด้วย ตอนพี่สอบก็ทำทุกอย่างแหละ ทำงาน ฟังคำบรรยาย อ่านหนังสือ ทำโน๊ตย่อ ฝึกทำข้อสอบเก่า อัดเสียงตัวเอง ดูแล้วมันเยอะใช่ป่ะ สิ่งที่จะทำให้เราทำได้ คือ มีสมาธิ แล้วจะเกิดปัญญา นั่นคือ สวดมนต์ทุกวัน วันละ ครึ่งชั่วโมง บทสวดไหนก็ได้ที่เราสวดแล้วสบายใจ

Facebook Comments