Home บทความ ความชำรุดบกพร่อง ศาลฎีกาวางหลักไว้เป็นอย่างไร

ความชำรุดบกพร่อง ศาลฎีกาวางหลักไว้เป็นอย่างไร

2574

ความชำรุดบกพร่อง ศาลฎีกาวางหลักไว้เป็นอย่างไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7172/2547

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างกับจำเลย โดยให้จำเลยก่อสร้างบ้านบนที่ดินของโจทก์ จำเลยได้เบิกค่าจ้างไปจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว แต่ไม่ทำการก่อสร้างให้เป็นไปตามสัญญา ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินจำนวน 1,785,239 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 1,750,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยรื้อถอนขนย้ายสิ่งก่อสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์โดยค่าใช้จ่ายของจำเลย

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยดำเนินงานก่อสร้างตามสัญญาโดยส่งมอบงานแต่ละงวดที่ได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว งานส่วนที่เหลืองวดสุดท้ายจำเลยก็กำลังทำอยู่เพื่อส่งมอบ มิได้ละทิ้งงานตามฟ้อง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินค่าจ้างคืน ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2539 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยต้องรับผิดชำระเงินคืนให้แก่โจทก์จำนวน 500,000 บาท ตามคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองหรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยทำสัญญารับจ้างก่อสร้างบ้านโจทก์โดยมีนางดาวกระจายเป็นผู้ทำสัญญาแทนโจทก์ในราคาทั้งสิ้น 1,750,000 บาท แบ่งชำระเป็นงวด ๆ ตามผลของงานรวม 5 งวด จำเลยรับเงินค่าจ้างไปแล้วรวม 1,712,500 บาท เป็นเงินค่าจ้างในงวดที่ 1 ถึงที่ 3 จำนวน 1,212,500 บาท ปรากฏว่าจำเลยก่อสร้างบ้านไม่เรียบร้อยตามสัญญาตั้งแต่งวดที่ 4 เป็นต้นไป ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยก่อสร้างบ้านเรียบร้อย ไม่เคยผิดสัญญาแต่อย่างใดนั้น จำเลยกล่าวอ้างลอย ๆ โดยไม่สืบพยาน จึงไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ ส่วนที่จำเลยอ้างว่า นางดาวกระจายตัวแทนโจทก์รับมอบงานก่อสร้างบ้านจากจำเลยโดยมิได้อิดเอื้อน จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 598 นั้น เห็นว่า กรณีนี้เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาเพราะไม่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อยตามสัญญา หาใช่ฟ้องให้จำเลยรับผิดในความชำรุดบกพร่องของงานที่ทำ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาเพราะไม่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อยตามสัญญาจริง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเงินคืนจากจำเลยตามสัดส่วนของงานที่ยังไม่ได้ทำให้เรียบร้อยตามสัญญาได้ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

สรุป

ความชำรุดบกพร่องตาม ป.พ.พ. มาตรา 601 หมายความถึงความชำรุดบกพร่องซึ่งเกิดขึ้นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 598 , 599 และ 600 อันหมายถึงความชำรุดบกพร่องในตัวทรัพย์ที่ผู้รับจ้างส่งมอบให้กับผู้ว่าจ้างครบถ้วนแล้ว มิใช่หมายถึงการไม่ปฏิบัติให้ครบถ้วนตามสัญญา

ที่จำเลยฎีกาว่า ว. ตัวแทนโจทก์รับมอบงานก่อสร้างบ้านจากจำเลยโดยมิได้อิดเอื้อน จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 598 นั้น เห็นว่า กรณีนี้เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาเพราะไม่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อยตามสัญญา หาใช่ฟ้องให้จำเลยรับผิดในความชำรุดบกพร่องของงานที่ทำ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาเพราะไม่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อยตามสัญญาจริง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเงินคืนจากจำเลยตามสัดส่วนของงานที่ยังไม่ได้ทำให้เรียบร้อยตามสัญญาได้

Facebook Comments