Home กฎหมาย-ฎีกาน่ารู้ เมื่อสามียื่นฟ้องหย่าภรรยาและขอแบ่งสินสมรส ระหว่างนั้นภรรยานำที่ดินและบ้านซึ่งเป็นสินสมรสไปขายฝาก เป็นความผิดอาญาฐานโกงเจ้าหนี้และยักยอกหรือไม่

เมื่อสามียื่นฟ้องหย่าภรรยาและขอแบ่งสินสมรส ระหว่างนั้นภรรยานำที่ดินและบ้านซึ่งเป็นสินสมรสไปขายฝาก เป็นความผิดอาญาฐานโกงเจ้าหนี้และยักยอกหรือไม่

4893

images (2)เรามาดู    คำพิพากษาฎีกาที่ 12250/2557   

 

การลงทุนทำไร่องุ่นระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ประเทศออสเตรเลียอยู่ในช่วงเวลาที่โจทก์ร่วมกับจำเลยยังคงเป็นสามีภรรยากัน แม้จำเลยย้ายกลับมาอยู่ในประเทศไทย แต่ก็ยังไม่ได้หย่าขาดกับโจทก์ร่วม เงินค่าชดเชยที่รัฐบาลออสเตรเลียจ่ายให้แก่โจทก์ร่วมและจำเลยกรณีเลิกทำไร่องุ่นเป็นเงินที่ได้มาในระหว่างสมรสจึงเป็นสินสมรส การที่โจทก์ร่วมส่งเงินค่าชดเชยมาให้แก่จำเลย เงินส่วนนี้ก็ยังคงเป็นสินสมรส เมื่อจำเลยนำเงินไปซื้อที่ดินพร้อมบ้านพิพาทถึงแม้มีการจดทะเบียนโอนใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ทรัพย์พิพาทก็เป็นสินสมรสระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลย
จำเลยจดทะเบียนขายฝากที่ดินพร้อมบ้านพิพาทอันเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยไว้แก่ ม. ภายหลังที่โจทก์ร่วมยื่นฟ้องจำเลยขอหย่าและแบ่งสินสมรส จึงมิใช่การทำสัญญาในลักษณะปกติแม้คดียังมีข้อโต้เถียงกรรมสิทธิ์และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลก็ต้องถือว่าโจทก์ร่วมอยู่ในฐานะเจ้าหนี้ที่มีอำนาจฟ้องจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเข้าองค์ประกอบความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตาม ป.อ. มาตรา 350
ที่ดินพร้อมบ้านพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลย โจทก์ร่วมกับจำเลยจึงเป็นเจ้าของรวมในที่ดินพร้อมบ้านพิพาท การที่จำเลยนำที่ดินพร้อมบ้านพิพาทไปจดทะเบียนขายฝากไว้แก่ ม. โดยโจทก์ร่วมไม่ทราบและไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ร่วมก่อนและไม่ไถ่คืนภายในกำหนด การกระทำของจำเลยเป็นการเบียดบังเอาที่ดินพร้อมบ้านพิพาทไปเป็นของตนหรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานยักยอกตาม ป.อ. มาตรา 352 วรรคแรกด้วย

หมายเหตุ

กรณีคู่สมรสฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าและขอแบ่งสินสมรสถือว่าคู่สมรสฝ่ายที่ฟ้องอยู่ในฐานะเจ้าหนี้

 

นายเกรียงศักดิ์    นวลศรี

น.บ   น.บ.ท   วิชาชีพว่าความ   ที่ปรึกษากฎหมาย   และผู้เขียนบทความในเว็บตั๋วทนาย.com



Facebook Comments