ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอม เสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใด โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทและทําให้บริษัทเสียหาย บริษัทอาจเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้เอาประกันภัยอันเกิดจากการนั้น เว้นแต่ความเสียหายนั้น ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายที่จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และบริษัทไม่จัดการต่อการเรียกร้องนั้น

ถ้าหากในกรณีที่เกิดขึ้นนั้นมิได้เป็นความรับผิดของผู้เอาประกันภัย แต่ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิดและไปตกลงยินยอมเสนอให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใดแม้จะไม่ได้ รับความยินยอมจากบริษัท บริษัทก็ไม่สามารถยกเป็นข้อปฏิเสธความรับผิดได้ บริษัทเพียงแต่ไม่ผูกพันรับผิดตามจํานวนที่ผู้เอาประกันภัยไปตกลงชดใช้ แต่ยังคงผูกพันรับผิดตามจํานวนค่าเสียหายที่แท้จริง เช่น

ตัวอย่าง

นายแดงขับรถคันที่เอาประกันภัยไว้ไปประสบอุบัติเหตุ ทําให้นายขาวผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกาย และความเสียหายนั้นนายแดงเป็นฝ่ายที่จะต้องรับผิดตามกฎหมาย แล้วนายแดงไปตกลงชดใช้ ค่าเสียหายให้แก่นายขาว จํานวน 30,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ความเสียหายที่แท้จริงที่นายขาวได้รับเป็น จํานวน 10,000 บาท แม้การตกลงดังกล่าวจะไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทก็ตามก็ไม่เป็นเหตุให้บริษัทปฏิเสธความรับผิดได้ บริษัทเพียงแต่ไม่ผูกพันรับผิดค่าเสียหาย จํานวน 30,000 บาท ที่ผู้เอาประกันภัยไปตกลงชดใช้แต่ยังคงผูกพันรับผิดค่าเสียหาย จํานวน 10,000 บาท ซึ่งเป็นค่าเสียหายที่แท้จริง สําหรับค่าเสียหายส่วนเกินอีกจํานวน 20,000 บาท เป็นเรื่องที่นายขาวจะต้องไปว่ากล่าวเอากับนายแดงเอง

กล่าวโดยสรุป

เงื่อนไขนี้กําหนดขึ้นเพื่อป้องกันมิให้ผู้เอาประกันภัยไปตกลงยินยอมรับผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งอาจมีผลเสียหายสําหรับผู้เอาประกันภัยเองได้

ปรึกษาทีมงานทนายความ
ทนายอธิป 061-939-9935
ทนายเบส 091-939-4249
ทนายหนึ่ง 084-444-8952
ทนายไผ่ 095-781-9477
ทนายตี๋ใหญ่ 088-021-7716

Facebook Comments