Home ทั้งหมด ยิงโจรกี่นัดไม่มีความผิด ต้องคำนึงข้อกฎหมายด้านไหนบ้าง

ยิงโจรกี่นัดไม่มีความผิด ต้องคำนึงข้อกฎหมายด้านไหนบ้าง

349

#ยิงโจรกี่นัดไม่มีความผิด ต้องคำนึงข้อกฎหมายด้านไหนบ้าง
(แบบประชาชนฟังแล้วเข้าใจง่าย)

ทีมงานทนายกฤษดาขอแนะนำว่า การยิงเพื่อป้องกันชีวิตหรือทรัพย์สินของตนเองหรือของผู้อื่นนั้น ถือว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

#ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

ที่กำหนดว่าบุคคลใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายที่เกิดจากการกระทำที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง โดยกระทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช้อาวุธปืนเกินกว่าเหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย บุคคลนั้นจึงไม่มีความผิด

จากบทบัญญัติดังกล่าว จะเห็นได้ว่า การยิงเพื่อป้องกันชีวิตหรือทรัพย์สินของตนเองหรือของผู้อื่นนั้น จะต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายด้านต่างๆ ดังนี้

#ภยันตรายที่เกิดจากการกระทำที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย

ภยันตรายที่เกิดจากการกระทำที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย หมายถึง ภยันตรายที่เกิดจากการกระทำที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย เช่น การประทุษร้ายต่อชีวิตหรือร่างกาย การลักทรัพย์ การชิงทรัพย์ เป็นต้น

ภยันตรายนี้อาจเกิดจากการกระทำของบุคคลธรรมดาหรือบุคคลกลุ่มหนึ่งก็ได้ ตัวอย่างเช่น กรณีผู้ถูกข่มขู่ฆ่าโดยผู้ร้าย หรือกรณีผู้ถูกลักทรัพย์ขโมยรถจักรยานยนต์

#ภยันตรายที่ใกล้จะถึง

ภยันตรายที่ใกล้จะถึง หมายความว่า ภยันตรายที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทันที หรือภยันตรายที่หากไม่ป้องกันไว้ก็จะเกิดความเสียหายขึ้นทันที

ภยันตรายนี้อาจเกิดขึ้นได้ในขณะนั้นหรืออาจเกิดขึ้นในอนาคตก็ได้ ตัวอย่างเช่น กรณีผู้ถูกข่มขู่ฆ่าโดยผู้ร้ายที่ถืออาวุธปืนอยู่ในมือ หรือกรณีผู้ถูกลักทรัพย์ขโมยรถจักรยานยนต์ที่กำลังจะขับรถออกไป

#กระทำด้วยความระมัดระวัง

การกระทำด้วยความระมัดระวัง หมายความว่า การกระทำที่ได้พิจารณาถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อาวุธปืนแล้ว และไม่ใช้อาวุธปืนเกินกว่าเหตุ

การกระทำด้วยความระมัดระวังนั้น จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น

#ความรุนแรงของภยันตรายที่จะเกิดขึ้น

โอกาสที่ภยันตรายจะเกิดขึ้น
ทางเลือกอื่นในการหลีกเลี่ยงภยันตราย

#ตัวอย่างเช่น กรณีผู้ถูกข่มขู่ฆ่าโดยผู้ร้ายที่มีอาวุธปืนอยู่ในมือ ผู้ถูกข่มขู่ฆ่าอาจใช้อาวุธปืนยิงผู้ร้ายเพื่อป้องกันชีวิตตนเองได้ แต่หากผู้ถูกข่มขู่ฆ่าสามารถหลบหนีจากผู้ร้ายได้โดยไม่ใช้อาวุธปืน ก็ถือว่าผู้ถูกข่มขู่ฆ่ากระทำด้วยความระมัดระวังแล้ว

#ไม่ใช้อาวุธปืนเกินกว่าเหตุ

ไม่ใช้อาวุธปืนเกินกว่าเหตุ หมายความว่า การใช้อาวุธปืนในการป้องกันตนเองหรือผู้อื่นนั้น ต้องกระทำเท่าที่จำเป็นเพื่อให้พ้นจากภยันตรายเท่านั้น

การใช้อาวุธปืนเกินกว่าเหตุ หมายถึง การใช้อาวุธปืนเพื่อทำร้ายหรือฆ่าผู้คุกคามเกินกว่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันตนเองหรือผู้อื่น เช่น กรณีผู้ถูกข่มขู่ฆ่าโดยผู้ร้ายที่ถืออาวุธปืนอยู่ในมือ ผู้ถูกข่มขู่ฆ่ายิงผู้ร้ายจนเสียชีวิต แม้ว่าผู้ร้ายจะยังไม่ทันใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้ถูกข่มขู่ฆ่าก็ตาม

#ตัวอย่าง กรณีการยิงเพื่อป้องกันชีวิตหรือทรัพย์สินของตนเองหรือของผู้อื่นที่ถือเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น

กรณีผู้ถูกข่มขู่ฆ่าโดยผู้ร้าย โดยผู้ถูกข่มขู่ฆ่ามีอาวุธปืนอยู่ในมือและสามารถใช้อาวุธปืนนั้นได้ และผู้ที่ถูกข่มขู่ฆ่าจึงตัดสินใจยิงผู้ร้ายเพื่อป้องกันชีวิตตนเอง

#ครูโอ๊ต ธัญญ์พัทธิ์ ธรรมศิลป์ # TDA Tactical ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธปืน แนะนำว่า ให้ยิงจนกว่าภัยคุกคามจะหมดไป ซึ่งมีวิธีการหลายประเภทและหลายวิธีการมาก ซึ่งหากต้องการความรู้โดยละเอียด จะขออนุญาตแนะนำในครั้งต่อๆไป

#ในกรณีนี้ ถือว่าผู้ถูกข่มขู่ฆ่ากระทำด้วยความระมัดระวังแล้ว

เนื่องจากผู้ถูกข่มขู่ฆ่าได้พิจารณาถึงความรุนแรงของภยันตรายที่จะเกิดขึ้น (ผู้ร้ายมีอาวุธปืนอยู่ในมือ) โอกาสที่ภยันตรายจะเกิดขึ้น (ผู้ร้ายกำลังข่มขู่ฆ่าผู้ถูกข่มขู่ฆ่า) และทางเลือกอื่นในการหลีกเลี่ยงภยันตราย (ผู้ถูกข่มขู่ฆ่าไม่สามารถหลบหนีจากผู้ร้ายได้)

กรณีผู้ถูกลักทรัพย์ขโมยรถจักรยานยนต์ โดยผู้ถูกลักทรัพย์มีอาวุธปืนอยู่ในมือและสามารถใช้อาวุธปืนนั้นได้ และผู้ถูกลักทรัพย์จึงตัดสินใจยิงผู้ลักทรัพย์เพื่อป้องกันทรัพย์สินของตนเอง

ในกรณีนี้ ถือว่าผู้ถูกลักทรัพย์กระทำด้วยความระมัดระวังแล้ว เนื่องจากผู้ถูกลักทรัพย์ได้พิจารณาถึงความรุนแรงของภยันตรายที่จะเกิดขึ้น (ผู้ลักทรัพย์กำลังขโมยทรัพย์สินของผู้ถูกลักทรัพย์) โอกาสที่ภยันตรายจะเกิดขึ้น (ผู้ลักทรัพย์กำลังจะขับรถออกไป) และทางเลือกอื่นในการหลีกเลี่ยงภยันตราย (ผู้ถูกลักทรัพย์ไม่สามารถหยุดผู้ลักทรัพย์ได้)

กล่าวโดยสรุป ทีมงานทนายกฤษดา ขออนุญาตให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการยิงเพื่อป้องกันชีวิตหรือทรัพย์สินของตนเองหรือของผู้อื่น หากการกระทำนั้นไม่เป็นไปตามหลักการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น ไม่ได้พิจารณาถึงภยันตรายที่เกิดจากการกระทำที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย หรือใช้อาวุธปืนเกินกว่าเหตุ การกระทำนั้นอาจถือเป็นความผิดอาญาได้ เช่น ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หรือความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่ควรคำนึง เช่น การถูกตั้งข้อหา การถูกดำเนินคดี ระยะเวลาที่ต้องเสียไป และประวัติในการกระทำความผิด

ทนายกฤษดา ดวงชอุ่ม
#LAWYERS.IN.TH. #TDA

Facebook Comments