คำพิพากษาฎีกาที่น่าสนใจในเรื่องการร้องสอดและคำพิพากษาไม่เกินคำขอ
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยพร้อมบริวารออกจากที่ดินพิพาทให้จำเลยขนย้ายหรือไถหรือทำลายต้นอ้อย จำเลยให้การว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดิน แต่มารดาและน้องจำเลยเข้าไปทำประโยชน์ เช่นนี้โจทก์มีสิทธิขอให้ศาลหมายเรียกมารดาและจำเลยเข้ามาในคดีได้ตามมาตรา 57 (3) และเมื่อศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย ศาลก็สามารถขับพิพากษาให้ขับไล่มารดาและน้องของจำเลยได้ด้วย ไม่ถือว่าพิพากษาเกินคำขอ ทั้งนี้ตามความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 142 (1)
คำพิพากษาฎีกาที่ 6329/2561 โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยพร้อมบริวารออกจากการทำประโยชน์ที่ดินพิพาทห้ามเกี่ยวข้อง ให้จำเลยขนย้ายหรือไถหรือทำลายต้นอ้อยออกจากที่ดิน หากไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการโดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย และตามรายงานกระบวนพิจารณาจำเลยแถลงต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทแต่อย่างใด แต่มีมารดาและน้องจำเลยเข้าทำประโยชน์ เป็นกรณีที่จำเลยอ้างว่า มารดาและน้องจำเลยเป็นผู้ทำความเสียหายแก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องมารดาและน้องจำเลยเพื่อใช้ค่าทดแทนได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๕๒ (๓) และเมื่อศาลชั้นต้นได้มีหมายเรียกมารดาและน้องจำเลยเข้ามาเป็นจำเลยร่วมทั้งสองในคดีตามที่โจทก์ร้องขอแล้ว อันทำให้จำเลยร่วมทั้งสองมีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนถูกฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยพร้อมบริวารออกจากที่ดินพิพาท แม้ฟ้องโจทก์จะมิได้ฟ้องจำเลยร่วมทั้งสองซึ่งเป็นผู้ร้องสอดก็ตาม คำพิพากษาให้ขับไล่ย่อมใช้บังคับแก่จำเลยร่วมทั้งสองได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๒ (๑) จะถือว่าเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องหาได้ไม่

ทนายสมชาย 089-981-1406
ทนายอธิป 061-939-9935
ทนายเบส 091-939-4249
ทนายหนึ่ง 084-444-8952
ทนายพีท 089-595-5014
ทนายตี๋ใหญ่ 088-021-7716
ทนายดิน 084-162-9095
ทนายน้ำฝน 097-2075666
ทนายไผ่ 095-7819477
ทนายแพรว 094-975-1151

Facebook Comments