คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4876/2561

จำเลยซึ่งเป็นคนรักเก่าของ ส.มาในที่เกิดเหตุเนื่องจากผู้ตายทะเลาะทำร้าย ส.และสั่งให้ ส.โทรศัพท์เรียกจำเลยมาในที่เกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุจำเลยเข้าไประงับเหตุระหว่างผู้ตายกับ ส. โดยจำเลยถามผู้ตายว่า “ทำไม ทำกับผู้หญิงอย่างนี้” เมื่อจำเลยพูดจบ ผู้ตายเป็นฝ่ายที่ชกใบหน้าจำเลย 1 ครั้ง จากนั้นทั้งสองชุลมุนชกต่อยกัน ผู้ตายเป็นฝ่ายพกอาวุธมีดมา แม้เหตุการณ์ในช่วงนี้ อาจถือได้ว่ามีภยันตรายที่จำเลยจำต้องป้องกัน แต่ปรากฏว่าต่อมาจำเลยแย่งอาวุธมีดดังกล่าวได้แล้วแทงผู้ตาย โดยเหตุการณ์ในช่วงต่อมานี้ จำเลยกับผู้ตายชุลมุนต่อสู้กันประมาณ 10 นาที ผู้ตายพูดว่า “พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว” แสดงว่าผู้ตายไม่อยู่ในวิสัยที่จะต่อสู้ทำร้ายจำเลยได้อีกต่อไป ภยันตรายที่จำเลยจำต้องป้องกันได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่จำเลยกับพวกยังคงตามทำร้ายซ้ำอีก แล้วจำเลยได้ถีบผู้ตายตกลงไปในคลอง จากนั้นจำเลยกับพวกกลับไปที่รถจักรยานยนต์แล้วขับกลับมายังจุดที่ผู้ตายตกลงไปในคลอง และจำเลยตะโกนขึ้นว่า “ลงไปดูซิ มันตายหรือยัง” แต่เพื่อนของจำเลยบอกว่า “ไปเลย ไปเลย” จำเลยกับพวกจึงขับรถจักรยานยนต์ออกไปจากที่เกิดเหตุ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกัน แต่พฤติการณ์ที่จำเลยซึ่งเป็นคนรักเก่าของ ส. และถูกเรียกให้ไปในที่เกิดเหตุ กับพยายามระงับเหตุทะเลาะระหว่างผู้ตายซึ่งเป็นคนรักใหม่กับ ส. แต่ผู้ตายเป็นฝ่ายชกและพยายามจะใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายจำเลยก่อน จึงถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยแทงผู้ตายจนถึงแก่ความตายจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ

แม้ผู้ตายจะมีส่วนในการก่อให้จำเลยกระทำความผิดจึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ผู้ร้องทั้งสองซึ่งเป็นผู้บุพการีของผู้ตายจึงไม่มีอำนาจจัดการแทนผู้ตาย ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 5(2) ในอันที่จะยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการก็ตาม แต่ผู้ร้องทั้งสองยังเป็นผู้เสียหายในคดีส่วนแพ่งและมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ.อ.มาตรา 44/1 ส่วนจำเลยจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพียงใดนั้นต้องเป็นไปตาม ป.พ.พ.มาตรา 442 ประกอบมาตรา 223

สรุป
ผู้ร้องทั้งสองซึ่งเป็นบิดามารดาขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมและขอบังคับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำขอร่วมเป็นโจทก์และคำร้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหาย ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน แต่ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายมีส่วนในการก่อให้จำเลยกระทำความผิดจึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย แต่ยังเป็นผู้เสียหายในคดีส่วนแพ่งและมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้

ปรึกษาทีมงานทนายความ
ทนายอธิป 061-939-9935
ทนายเบส 091-939-4249
ทนายหนึ่ง 084-444-8952
ทนายตี๋ใหญ่ 088-021-7716

Facebook Comments